ดอกไม้

การจัดดอกไม้งานศพเป็นอีกสิ่งหนึ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการประกอบพิธีกรรมสำหรับผู้เสียชีวิต เพราะเป็นการแสดงถึงความอาลัยต่อผู้ล่วงลับ เพื่อส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดี อีกทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในงานศพไม่ให้เศร้าหมองจนเกินไปอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เรามักเห็นการจัดดอกไม้งานศพอย่างสวยงามตามมุมต่าง ๆ ทั่วงาน เช่น รอบศาลา พวงหรีด หน้าโลงศพ และประดับเมรุ ที่ล้วนแล้วแต่มีความหมายที่สื่อถึงความรักและความอาลัย

1. ดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้จัดในงานศพ ซึ่งชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใช้เป็นตัวแทนแห่งความโศกเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะคนจีนถือว่าเป็นมงคลที่สื่อถึงสัจจะหรือความซื่อสัตย์ แต่สำหรับหลายประเทศในทวีปยุโรปกลับถือว่าเป็นดอกไม้สำหรับพิธีศพหรือสัญลักษณ์แห่งความตาย เมื่อนำดอกเบญจมาศมาประดับงานศพจึงแฝงข้อคิดเตือนใจไว้ว่า “ความตายเป็นความจริงแท้ที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกหนีได้

2. ดอกลิลลี่

ดอกลิลลี่เป็นที่นิยมนำมาจัดในงานศพไม่แพ้กันเลยค่ะ โดยเฉพาะชาติตะวันตกจะนิยมนำดอกชนิดนี้มาจัดเป็นพวงหรีดหรือวางไว้บนโลงศพมากที่สุด เพราะดอกลิลลี่สื่อถึงความสดใสร่าเริงและความบริสุทธิ์ผุดผ่อง จึงเชื่อกันว่าหากนำมาประดับไว้ในงานศพนอกจากจะเป็นการส่งผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดีอย่างไร้มลทินและช่วยรักษาหรือฟื้นฟูจิตวิญญาณให้กับผู้วายชนม์ อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายหรือบรรเทาบรรยากาศอันโศกเศร้าภายในงาน

3. ดอกคาร์เนชั่น

ดอกคาร์เนชั่นจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง แต่ก็สามารถนำมาใช้จัดในงานศพเช่นกันค่ะ เพราะเป็นตัวแทนแห่งความโศกเศร้าที่สูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักไป แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยปลอบประโลมจิตใจหรือมอบกำลังใจเจ้าภาพและญาติของผู้เสียชีวิตให้กลับมาเข้มแข็งดังเดิมได้อีกด้วย ซึ่งสังคมตะวันตกนิยมนำมาทำเป็นพวงหรีดหรือวางไว้บนโลงศพมากที่สุดเช่นเดียวกับดอกลิลลี่ โดยเฉพาะดอกคาร์เนชั่นสีขาวที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์หรืออ่อนโยนที่มีต่อผู้ล่วงลับ

4. ดอกกล้วยไม้

ส่วนมากเรามักนำดอกกล้วยไม้มาใช้กราบไหว้บูชาพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดวาอารามต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้วดอกกล้วยไม้ยังสื่อความหมายถึงความรักอันลึกซึ้งว่า “ความรักที่สง่างาม ความประเสริฐ” เมื่อนำมาใช้ในการจัดในงานศพก็จะสื่อความหมายถึงความรักและความระลึกถึงที่มีต่อผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะชาวตะวันตกเชื่อว่าดอกกล้วยไม้สีขาวและสีชมพูนั้นแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจและความรักชั่วนิรันดร์

5. ดอกหน้าวัว

เชื่อแน่ว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับดอกหน้าวัวที่ประดับอยู่บนพวงหรีดเป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนไทยนิยมนำมาใช้ในงานอวมงคลอย่างการจัดงานศพ เพราะชนิดนี้สื่อความหมายในเชิงหม่นหมองว่า “หญิงสาวผู้เหงาเศร้า” แต่สำหรับแง่ของความรักแล้ว ดอกหน้าวัวจะหมายถึง “ความรักที่อดทนและมั่นคง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ดังนั้นเมื่อนำดอกหน้าวัวมาใช้ประดับในงานศพก็จะสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรักที่มั่นคงและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย

6. ดอกไฮเดรนเยีย

ดอกไฮเดรนเยียสื่อความหมายอย่างสั้น ๆ ว่า “ขอบคุณ” ซึ่งคนส่วนใหญ่มักรู้จักหรือคุ้นตาในงานวิวาห์ที่คู่บ่าวสาวมอบให้แก่กันเพื่อแทนคำขอบคุณ แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถนำดอกชนิดนี้มาจัดในงานศพได้เช่นกัน เพราะสื่อความหมายในอีกรูปแบบหนึ่งได้ว่า “ขอบคุณที่มอบความรักและมิตรภาพงดงามที่น่าจดจำให้แก่กัน” หรือ “ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เราเกิดมาพบเจอกัน”

7. ดอกกุหลาบ

ดอกกุหลาบจะเป็นตัวแทนแห่งความรักที่คู่รักส่วนใหญ่มักมอบให้แก่กันในเทศกาลวาเลนไทน์แล้วยังสามารถนำมาจัดในงานศพได้อีกด้วยนะคะ เพราะดอกไม้ชนิดนี้เป็นตัวแทนที่บอกเล่าความรู้สึกดี ๆ หรือแสดงถึงความรักอันงดงามที่มอบให้กับดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ

8. ดอกเยอบีร่า

ดอกไม้เยอบีร่าจะหมายถึง “ความรักที่มั่นคง ซื่อตรง และภักดี” ด้วยความหมายดี ๆ นี้เองทำให้นิยมนำมาใช้จัดดอกไม้งานศพ ซึ่งเปรียบเสมือนได้ว่าเราได้มอบความรักที่มั่นคงและซื่อสัตย์ภักดีให้แก่ผู้ล่วงลับที่จากไปแล้วตลอดกาล

9. ดอกสแตติส

ดอกสแตติสนั้นสื่อความหมายถึง “ความรู้สึกดี ๆ ที่คงอยู่ตลอดไป” เมื่อนำมาจัดในงานศพ ดอกไม้ชนิดนี้จะเป็นตัวกลางที่สื่อความหมายได้ว่า “ความทรงจำและความรู้สึกดี ๆ ที่ผู้ล่วงลับเคยมอบให้แก่ครอบครัว ญาติ และเพื่อนนั้นจะยังคงอยู่ตลอดไป” หรือ “ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อผู้ล่วงลับจะคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป

10. ดอกสวอนแพลนท์

ดอกสวอนแพลนท์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ดอกบอลลูน” นั้นเป็นดอกไม้ประเภทประดับตกแต่งที่ใช้จัดดอกไม้งานศพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาจัดตกแต่งพวงหรีด